International Renewable Energy Certificates, also known as I-REC, represents tradable energy attribute certificate generated from renewable sources, such as solar, hydro, biomass, biogas and geothermal. An I-REC is created for every MWh of generated renewable electricity. I-REC is an important tool for promoting development of renewable energy generation and consumption and also supporting environmental benefits for our planet. https://www.facebook.com/Datacenteruniversity/
วันนี้ขอเล่าถึงความหายนะของธุรกิจค้าปลีกที่เป็นรูปแบบของ brick & mortar outlet คือค้าปลีกที่มีหน้าร้าน จากตัวเลขของ Coresight research เปิดเผยว่าความหายนะยังไม่ชะลอตัวลง ปีนี้ผ่านไปแล้ว 9 เดือน มีร้านค้าปิดตัวมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถึง 40% นี่เป็นตัวเลขในสหรัฐอเมริกา และคาดว่าถึงสิ้นปีจะมีร้านค้าปิดตัวลงถึง 12,000 outlets
เรามาดูว่าคนเหล่านั้นเป็นใคร
Payless ประกาศล้มละลายและปิดร้านค้าทั้งหมด 2,300 ร้าน
Forever 21 ประกาศล้มละลายและปิดร้านค้าใน 40 ประเทศ
Abercrombie & Fitch ปิดร้านค้า 100 ร้าน
American Apparel ปิดร้าน 110 ร้าน
Foot locker ปิดร้าน 165 ร้าน
Sears ปิด 93 ร้าน
Kmart ปิด 53 ร้าน
JC Penny ปิด 23 ร้าน
J. Crew ปิด 20 ร้าน
Walmart ปิด 18 ร้าน
Gap ปิดร้าน 230 แห่ง
Michael Kors ปิดร้าน 125 ร้าน
Victoria's Secret ปิด 53 ร้าน
Office Depot ปิด 59 ร้าน
Sears ปิด 93 ร้าน
Wallgreens ปิด 200 ร้าน
Family Dollar ปิด 390 ร้าน
Fred's ปิด 559 ร้าน
Dress Barn ปิด 650 ร้าน
Gymboree ปิด 800 ร้าน
Lord & Taylor ซึ่งเป็น department store ที่เก่าแก่ที่สุด ปิด outlet ที่ New York บนถนน Fifth Avenue และ outlet อื่น ๆ อีก 10 สาขา
นี่เป็นเพียงหนังตัวอย่างไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็กหรือใหญ่ตอนนี้ถูกเขย่าจนเท้าไม่ติดพื้น และผู้ประกอบการไทยควรใช้เป็นบทเรียนว่าคลื่นยักษ์กำลังมาสร้าง new chapter ของ retail industry และมาเร็วแบบที่คุณคาดไม่ถึง
มีรายงานจากนักวิเคราะห์ของ UBS ที่คาดการณ์ว่าในปี 2026 จะมีร้านค้าปิดตัวถึง 75,000 ร้านในอเมริกา เพราะตอนนั้น e-commerce penetration จะสูงถึง 25% จากเดิมที่ตอนนี้ค่าอยู่ที่ 16%
....
สำหรับเมืองไทย ผมมีความเห็นว่า e-commerce จะโตแบบก้าวกระโดด เพราะผู้ประกอบการที่เห็นรูปแบบจากต่างประเทศ เรียนรู้แล้วพัฒนาสิ่งที่เห็นในต่างประเทศสร้าง platform ใหม่ที่ประยุกต์เข้ากับ lifestyle ของผู้บริโภคบ้านเรา ทำให้เกิดสิ่งที่ผมเรียกว่า leapfrog effect
คำว่า leapfrog effect คือจะกระโดดข้ามจาก 1 ไปที่ 5
....
ผู้อ่านลองถามตัวเองเล่น ๆ ซิครับว่าในหนึ่งอาทิตย์ มีสินค้าที่สมาชิกในบ้านของท่านซื้อของจาก e-commerce platform กี่ชิ้น
...
ล่าสุดผมเองไปซื้อสินค้าอย่างในภาพทั้ง ๆ ที่ราคามีมูลค่าไม่มาก
ถามว่าเพราะอะไร
Time is the rare currency
เวลาเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่หาได้ยาก ผมยินดีซื้อของบน online platform เพื่อที่ใช้เวลาไปสร้าง productive output หรือไม่ก็ใช้เวลาพักผ่อน ดีกว่าเสียเวลาไปอยู่บนท้องถนนหลายชั่วโมง
...
นี่เป็นสิ่งที่ผมไม่เข้าใจว่า developer ที่พัฒนา shopping mall มูลค่าหลายหมื่นล้านบาทไม่รู้ร้อนหนาวถึงหายนะนี้หรือ เมื่อวานนี้ผมคุยกับผู้ประกอบการรายหนึ่งที่ทำธุรกิจ food chain เขาบอกชัดเจนว่าไม่มีการเปิดสาขาใหม่ เพราะมันพิสูจน์แล้วว่าได้ไม่คุ้มการลงทุน strategy ตอนนี้คือ drive organic growth เพราะโลกตอนนี้มีทั้ง online delivery และ กำลังก้าวไปที่ cloud kitchen ที่มาเบียดรูปแบบเดิมของ food retail แปลความหมายคือตอนนี้ brick & mortar business กำลังมองหาทางเลือกใหม่ เพราะจะพึ่ง organic growth คงไม่เพียงพอ
ตัวอย่างชัดเจนคือ shopping mall ที่เปิดอีกฝั่งของแม่น้ำตอนนี้อาการสาหัส
....
ใครไม่ปรับตัวเตรียมตัวดูหนังเรื่องยาวที่ผมขอตั้งชื่อว่า Apocalypse now
....
Is it time to rethink your business strategy before you're crashed and burned ?
มันเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณต้องประเมินตัวเอง หา solution ใหม่ ก่อนที่จะถูกเผาทั้งเป็น
credit : USA today, Foxbusiness, Moneywise
TikTok เซริน่าโปรตีนไหม
Sinkadee.net/serinasilk
ยูทานิกซ์
ตัวอย่างร้านค้าออนไลน์
นายญาธิป เอี่ยมตะคุ
นายธีรภัฎ เนตรสูงเนิน
สยามมัลติซอฟท์
นายนพดล ม่วงแก้ว
นางสาวฉวีวรรณ เพ็งลี